Sunday, May 01, 2005

อะไรกันเนี่ย

มารู้สึกตัวอีกที

ผมหลงอยู่ในโลกของเว็บบล็อกไปได้ ก่อนหน้านี้มีปิยมิตรของผมพยายามล่อลวงผมด้วยอุบายมากมาย เรียกว่าทั้งขู่ทั้งปลอบ ให้ผมมาเป็นบล็อกเกอร์น้องใหม่ให้ได้ ซึ่งผมก็บ่ายเบี่ยงตลอดมา

ก็โลกไซเบอร์กะผมมันเหมือนเด็กน้อย หลงอยู่มหานครใหญ่ คราคร่ำไปด้วยผู้คนมากหน้าหลายตา (ทั้งๆที่ไม่เคยจะได้เห็นหน้ากันซักกะคน) อะไรมันก็ใหม่ไปหมด ดูแล้วลายตา จะก้าวเท้าออกนอกบ้านที่อยู่ทีไรขามันสั่น กลัวไปหมด หากคิดจะออก ก็คงเดินถนนเส้นเดิมๆ ทำอะไรเดิมๆ กินอะไรเดิมๆ เดินเข้าร้านเดิมๆ แล้วก็กลับบ้านแบบเดิมๆ ... กลัวที่จะเริ่มต้นอะไรใหม่ๆ

อย่าว่าแต่เว็บบล็อกเลย เว็บบอร์ดผมยังโผล่หน้าไปนับบอร์ดได้

ไม่อยากจะเล่าความเป็นมา (เล่าล่ะนะ) หลังจากที่เพื่อนตัวดีของผม หลอกล่อโดยการนำเอาบล็อกของคนโน้น คนนี้มาให้อ่านอยู่เสมอ พร้อมกับเปรยๆ (หลังๆเริ่มมีบ่น) ว่าอยากมีเป็นของตัวเองมั่ง แล้วทุกครั้งที่มันว่าถึงเรื่องนี้ มันก็ไม่ลืมที่จะชวนผมเข้าสมาคมกะมัน อารมณ์เด็กอยากเข้าห้องน้ำแต่ไม่กล้าขออนุญาตครูไปคนเดียว

ผมอ่านงานชาวบ้านมาได้ไม่กี่วัน พร้อมกับชั่งใจตัวเอง เอาดีไม่เอาดีวะๆๆๆๆๆ จนรู้สึกว่าพร้อมเมื่อไรมันก็เมื่อนั้น (นี่มันทำเว็บบล็อกหรือมันจะออกรบวะ..สงสัยตัวเอง ทำไมมันกลายเป็นเรื่องใหญ่โตขนาดนั้น แต่ผมก็ได้คำตอบของตัวเอง เมื่อย้อนกลับไปอ่านสองสามย่อหน้าแรก) วันนี้ก็อีกแหล่ะ มันมาอีก พร้อมกับเอางานของมันและชาวบ้านมาให้อ่านอีก (กะว่าจะยั่ว โธ่ ยั่วกูไม่สำเร็จหรอก ไอ้อ่อนเอ๊ย)

พอดีงานมัน ผมไปอ่าน (แล้วโดนบังคับให้คอมเมนต์ แม้ว่ามันจะบอกว่า "เพียงคุณแวะมาชม เราก็แอบนิยมคุณอยู่ในใจ" ก็เหอะ) แล้วเปิดโอกาสให้คนไร้นามอย่างผมลงความเห็นได้ เข้าทาง...นิรนามเนี่ยถนัดนัก

แต่กะงานอีกคนนึงที่มันเอามาให้อ่านเนี่ยดิ (จริงๆก็ไม่ใช่ใครที่ไหนรุ่นน้องผมที่อยู่โพ้นทะเลดินแดนแห่งเสรีภาพ) อ่านแล้ว ก็อยากหล่นความเห็นไว้ เดี๋ยวจะหาว่ามาเชยชมแล้วจากไป ไอ้เราก็พิมพ์อย่างเมามัน เสร็จล่ะ กำลังจะกดส่ง อ้าว ทำไมมันไม่ให้นิรนามอย่างผมทิ้งความเห็นฟะ แล้วไงเนี่ย พิมพ์มาด้วยความตั้งใจ (ซึ้งนะ) จะทิ้งเหรอ หรือเก็บไว้รอบูด เอาวะไหนๆก็ไหน ลองสักตั้ง สู้เพื่อแม่! ลงทะเบียนก็ลง กะว่าทำไปหากมันติดขัดตรงไหน แล้วไม่สามารถจัดหาเว็บบล็อกเป็นของตัวเองได้ในวันนี้ จะได้มีข้ออ้างกับตัวเองว่า...ไม่เป็นไร เราทำเต็มที่แล้วววววว

แต่มันง่ายกว่าที่คิด เผลอแป๊ปเดียว ผมมีเว็บบล็อกเป็นของตัวเองเรียบร้อย และสามารถทิ้งความเห็นไว้ให้รุ่นน้องเจ้าบ้านผู้นั้นได้

แล้วไงเนี่ย ผมต้องทำไงต่อ โพสเรื่องราวความเป็นมา หรือ ไดอารี่ชีวิตอย่างที่ชาวบ้านเค้าทำเหรอ

หน้าหยั่งงี้เนี่ยนะ โอย คิดแล้วอกอีแปกจะแต้น หะแรกกะว่าจะอ่านงานของชาวบ้านชาวช่องเค้าไปเรื่อย เข้าไปแจมในฐานะหนุ่มนิรนาม (หาใช่นิค นิรนามแต่อย่างใด) สักพัก พอปรับหัวตัวเอง ทำความคุ้นชินกับสถานที่ใหม่เสียก่อน แล้วค่อยลงเสาเข็ม แต่นี่ยังไม่ได้ปรับที่เลย บ้านผมโผล่โด่เด่มาแล้ว ทำไง แล้วผมจะรักษาดูแลบ้านหลังใหม่หลังนี้ผมได้ตลอดรอดฝั่งมั๊ยล่ะเนี่ย

เฮ่อ จะว่าไปก็เหมือนคุมกำเนิดไม่อยู่ ผมได้ลูกมาแล้วหนึ่งคน จะเลี้ยงยังไง เลี้ยงยังไม่เป็น เอาตัวยังไม่รอด แต่เมื่อมีแล้วนี่ครับ ก็คงต้องว่ากันไปตามยถากรรม แล้วแต่โอกาสจะเอื้ออำนวย ผมยังใหม่มากทั้งในโลกไซเบอร์ และในโลกวิชาการ เป็นเด็กก็เตาะแตะ ไม่ประสีประสา วันข้างหน้าของบ้านหลังนี้ หรือลูกคนนี้ของผม ผมมองไม่ออกและคงไม่ได้ออกแบบไว้ล่ะครับว่ามันจะมีหน้าตายังไง คงต้องดูแล ค่อยๆตัดแต่ง ต่อเติม เลี้ยงดูกันต่อไป บางครั้งทำอะไรโดยที่เราไม่ได้คาดไว้ก่อน ก็เป็นความลับของชีวิตที่ท้าทายดีเหมือนกันนะครับ

ต่อจากนี้ชีวิตผมคงมีอะไรมากกว่าการเป็นสัมภเวสีในเว็บบอร์ดซะแล้ว

หวังว่าวันต่อๆไป ผมจะยังรักบ้านหลังนี้ และลูกคนนี้ของผม เลี้ยงดูไม่ให้เหี่ยวตาย และให้เค้าเติบโตขึ้น ไปพร้อมๆกับผมก็แล้วกันครับ

4 Comments:

Blogger Etat de droit said...

ผมรอวันนี้มานานเหลือเกิน ในที่สุดก็เปิดบล็อกซะที

คราวนี้คงมีประเด็นมันส์ๆมาถกกันอีก

อยากละเลงอะไรเต็มที่เลย ไม่ต้องเกรงว่าเราจะโพสสาระเกินไปเหมือนตอนเราไปเล่นที่บอร์ดจูริส

รอเรื่องดีๆในบล็อกมึงอยู่นะ

12:14 PM

 
Anonymous Anonymous said...

ummm...got ya personal page
i am looking forward to reading ya writing. plz don't be so stress!!! i can't fathom it.

2:21 PM

 
Anonymous Anonymous said...

แวะมาอ่านและเอาใจช่วยครับ

12:07 PM

 
Blogger ratioscripta said...

ขอบคุณทุกท่านที่ผ่านมายล และมอบกำลังใจให้ครับ

ผมเห็นที่คุณปริเยศ แลกเปลี่ยนทัศนะกับคุณปิ่นแล้วทึ่ง

ผมหัวช้า ออกจะไม่ค่อยทันเท่าไร แต่สัมผัสได้ถึงพลัง และความบริสุทธิ์

อยากให้โลกนิติศาสตร์ของผมเป็นอย่างนี้บ้าง

เนติบริกร อาจจะลดน้อยลง

นักกฎหมายคงจะได้ยืนอยู่บนโลกใบเดียว กับสังคมที่มันเคยอยู่

ubi societas ibi jus

ที่ใดมีสังคม ที่นั่นมีกฎหมาย

10:43 AM

 

Post a Comment

<< Home